การรับรองลายมือชื่อและเอกสาร (โดยทนายความผู้ทำคำรับรองลายมือชื่อ)

ท่านเคยสงสัยหรือไม่ ทำไมเวลาที่เราต้องนำเอกสารไปใช้ในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเพื่อทำงานต่อที่ต่างประเทศ หรือเพื่อศึกษาต่อ ถึงต้องมีการรับรองเอกสารก่อน หรือท่านอาจมีคำถามว่าจะต้องให้ใครเป็นผู้รับรองเอกสาร มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง หรือบางท่านอาจคิดว่าการรับรองเอกสารนั้นเป็นเรื่องที่ยากและวุ่นวาย ซึ่งในความเป็นจริงแล้วการรับรองลายมือชื่อหรือเอกสารนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก เราหวังว่าหลังจากที่ท่านได้อ่านบทความนี้แล้ว ท่านจะมีความเข้าใจเกี่ยวกับการรับรองลายมือชื่อและเอกสารมากยิ่งขึ้น

ทำไมถึงต้องมีการรับรองเอกสาร เนื่องจากบุคคลปลายทางที่จะได้รับเอกสารของท่านนั้นไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเอกสารที่ได้ส่งมานั้น เป็นเอกสารจริง เป็นเอกสารที่ถูกต้อง หรือเป็นลายมือชื่อของท่านจริง ดังนั้นจึงต้องมีบุคคลซึ่งคนส่วนมากให้ความยอมรับและความไว้วางใจในการรับรองเอกสารดังกล่าวแทน เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเอกสารดังกล่าว โดยทั่วไปแล้วบุคคลดังกล่าวคือโนตารี ปับลิก (Notary Public) โดยการรับรองเอกสารนั้นจะเป็นการรับรอง 1. ความแท้จริง 2. ความถูกต้อง 3. ความถูกต้องแท้จริง 

การรับรองลายมือชื่อหรือเอกสารในประเทศไทย 

ท่านอาจเคยได้ยินคำว่า “โนตารี” หรือ “Notary Public” หรือทราบมาก่อนว่าบุคคลดังกล่าวเป็นหนึ่งในบุคคลผู้ซึ่งได้รับอนุญาตให้รับรองเอกสารได้ในบางประเทศ หากแต่ในประเทศไทยนั้น ยังไม่มีกฎหมายว่าด้วยโนตารี ปับลิก ทางสภาทนายความแห่งประเทศไทยจึงได้จัดให้มีการอบรมและขึ้นทะเบียนเป็นทนายความผู้ทำคำรับรองลายมือชื่อและเอกสาร (Notarial Services Attorney) เมื่อปี พ.ศ. 2546 และได้มีการจัดอบรมเรื่อยมา โดยได้กำหนดกฎเกณฑ์ ข้อบังคับ คุณสมบัติ และรูปแบบของการรับรองไว้หลายรูปแบบ

เอกสารอะไรบ้างที่ต้องได้รับการรับรอง

เอกสารที่ต้องได้รับการรับรองนั้นมีหลากหลายต่างกันไปแล้วแต่ว่าท่านจะนำไปใช้อะไร เช่น หากท่านต้องการไปศึกษาต่อท่านอาจต้องรับรองเอกสารยืนยันตัวตน หากท่านเป็นชาวต่างประเทศแล้วต้องการรับเงินบำนาญท่านอาจต้องรับรองใบสูติบัตร หรือเอกสารอื่นๆ

โดยส่วนมากแล้วเอกสารที่จะต้องรับรองจะมีดังต่อไปนี้
1. ทะเบียนสมรส   2. ใบสูติบัตร   3. ใบมรณะบัตร   4. เอกสารยืนยันตัวตน   5. เอกสารทางการศึกษา  6. หนังสือมอบอำนาจ 

การรับรองอื่นๆนอกเหนือจากเอกสาร นอกจากการรับรองเอกสารแล้ว ทนายความผู้ทำคำรับรองลายมือชื่อและเอกสาร ยังสามารถรับรอง

  • รับรองตัวบุคคล (Authentication)
  • รับรองสำเนาเอกสาร (Copy Certification) 
  • รับรองลายมือชื่อในเอกสาร (Signature Witnessing) 
  • รับรองผู้แปล (Certification of Translator)
  • การรับรองนิติบุคคล (Corporate Acknowledgement)
  • การยืนยันการรับรู้ (Acknowledgement) 

สามารถนำไปใช้อะไรได้บ้าง เอกสารที่ได้รับการรับรองแล้วสามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่อได้หลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อใช้ในต่างประเทศ อาทิเช่น การสมัครเรียนต่อในต่างประเทศ การยื่นสมัครงาน รับรองสถานะทางการเงินหรือทางบัญชี หรือใช้เป็นเอกสารประกอบการยื่นหน่วยงานต่างๆ เช่น สถานทูต สถานกงสุล หน่วยงานเอกชน ธนาคาร หน่วยงานของรัฐ